ระบบไฟฟ้าในบ้าน เริ่มตรวจโดยการปิดสวิตซ์ไฟในบ้านทุกจุด รวมทั้งถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด จากนั้นไปดูมิเตอร์หน้าบ้านว่าเฟืองเหล็กยังหมุนอยู่หรือไม่ หากยังหมุนอยู่แสดงว่ายังมีกระแสไฟฟ้ารั่วให้ลองตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่นๆ เช่น เครื่องตัดไฟรั่วว่ายังทำงานดีหรือไม่ ด้วยการกดปุ่มทดสอบ Test (ควรกดปุ่มนี้ทุก 1-3 เดือน) หากยังมีการใช้ได้ปกติ สวิตซ์หรือคันโยกจะตกลงมาทันทีเพื่อตัดกระแสไฟฟ้า

2. ตรวจสอบเมนสวิตซ์

ตรวจสอบดูว่ามีมดหรือแมลงเข้าไปทำรังในตู้หรือไม่ เวซอร์กิตเบรกเกอร์ลูกย่อยยังสามารถใช้ปลดวงจร ระบบไฟฟ้าใรบ้าน ได้หรือไม่ ยังป้องกันไฟรั่วไฟดูดได้ดีอยู่หรือไม่ หากมีอุปกรณ์ชำรุดหรือเสียหายควรเปลี่ยนใหม่ให้เรียบร้อย

3. ตรวจสอบสายไฟฟ้าว่ามีส่วนใดชำรุดเสียหายบ้าง

โดยเฉพาะสายไฟที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานอาจจะเปื่อยกรอบเนื่องจากผ่านการใช้งานมานาน หรือถูกหนูกัดแทะสยาไฟจนขาดได้ (ในกรณีที่ไม่ได้หุ้มสายไว้ด้วยท่อร้อยสายไฟ) ถ้าพบก็ต้องเปลี่ยนใหม่โดยด่วน

4. ตรวจสอบเต้ารับไฟฟ้า

ดูว่าหลวม มีรอยแตกร้าว หรือรอยไหม้บ้างหรือไม่ ถ้าเต้ารับหลวมก็ขันสกรูให้แน่นดังเดิม ถ้าแต่ร้าวหรือพบรอยไหม้ก็ควรเปลี่ยนใหม่ และควรทดสอบเต้ารับทุกจุดว่ามีไฟหรือไม่ โดยใช้ไขควงวัดไฟทดสอบ

5. ตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า

ใช้ตรวจในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการจับต้องขณะการใช้งาน เช่น เครื่องซักผ้า เตารีด เป็นต้น โดยการตรวจจะตรวจว่ามีกระแสไฟฟ้ารั่วหรือไม่ โดยการใช้ไขควงวัดไฟแตะที่ตัวเครื่องส่วนที่เป็นโลหะ ถ้าหลอดไฟติดหรือเรืองแสง แสดงว่ามีไฟรั่วจากอุปกรณ์นั้นให้รีบหยุดใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นทันที! และตรวจเช็กว่ามีการติดตั้งสายดินถูกต้องหรือไม่ หากไม่มีการติดตั้งสายดิน ให้ดำเนินการติดตั้งสายดินให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด

**ถ้าเครื่องตัดไฟมีปัญหาไม่ทำงาน และได้ทำการแก้ไขเบื้องต้นที่ทางเรากล่าวไปแล้วยังพบปัญหาอยู่ ทางเราแนะนำให้เรียกช่างไฟฟ้ามืออาชีพมาช่วยแก้ไขเพื่อทำการซ่อมแซม เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเอง 

แต่หากกำลังต้องการโปรแกรมแจ้งซ่อมสำหรับใช้ภายในองค์กร ทางเราขอแนะนำ โปรแกรมนายช่าง .net โปรแกรมแจ้งซ่อมที่สะดวกใช้งานง่ายตอบโจทย์สำหรับทุกงานแจ้งซ่อม