How to เลือกช่างทาสีอย่างไรให้งานออกมามีคุณภาพ
1.ประเมินความสามารถของช่างทีสี
ก่อนจ้างช่างคนใดก็ตาม คุณควรติดต่อสอบถามหรือพูดคุยเรื่องการว่าจ้างทั่วไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าแรง วัสดุหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการรับงาน สีที่ใช้ และระยะเวลาในการรับผิดชอบงานตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อให้ทราบข้อมูลการทำงานเบื้องต้นอย่างครอบคลุม เข้าใจตรงกัน และไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ทั้งนี้ ควรสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายการเดินทางด้วย
2.ตรวจสอบคุณสมบัติ
เมื่อคุณมองหาช่างทาสีสักคนแล้วนั้น สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้ก่อนว่าจ้างก็คือตรวจสอบประวัติและคุณสมบัติในการทำงานของช่างคนนั้น โดยคุณอาจสอบถามหรือขออนุญาตดูผลงานเก่า ๆ หรือจ้างช่างทาสีจากแหล่งที่ไว้ใจได้
ทั้งนี้ ควรสอบถามเกี่ยวกับการประกันคุณภาพงานว่ามีการมีชดเชยอย่างไรกรณีที่ข้าวของเกิดความเสียหายจากการทำงานหรือพนักงานได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเมื่อคิดจะจ้างช่างทาสีมาทำงาน
3.ลงรายละเอียดงาน
เพราะการจ้างช่างทาสีเป็นหนึ่งในขั้นตอนของการทาสีบ้าน แม้คุณจะเป็นผู้ว่าจ้าง แต่ก็ต้องทำความรู้จักและเข้าใจขอบเขตทั้งหมดอย่างชัดเจน โดยต้องเตรียมวางแผนภาระงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการทาสีบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน หาที่รับรองข้าวของเครื่องใช้ชั่วคราวในขณะที่ยังทาสีไม่เสร็จ หรือแม้แต่การถอดหรือเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้อยู่ที่ปลอดภัย
4.ทำเรื่องเบิกค่าใช้จ่าย
สิ่งสุดท้ายของการว่าจ้างช่างทาสีก็คือทำเอกสารเบิกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายบานปลายจากที่ตกลงคุยกันไว้ เพราะเอกสารจะช่วยระบุและบันทึกรายละเอียดทุกอย่างไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนเริ่มงานคุณจึงควรทำเอกสารสัญญาการว่าจ้างส่งให้ทางผู้รับจ้างตรวจสอบและตกลงยินยอม ควรจ่ายมัดจำก่อนหรือไม่ ระยะเวลาการเบิกจ่ายนานเท่าไหร่
อย่างไรก็ตามหัวใจสำคัญของการเลือกช่างทาสีบ้านยังคงเป็นเรื่องของ “คุณภาพ” ทั้งคุณภาพของฝีมือช่าง บริการที่มีมาตรฐาน และคุณภาพของสีที่ต้องสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อให้การทาสีบ้านใหม่ได้ผนังที่สวยเนียนเรียบ ทนแดดทนฝน ป้องกันความร้อนให้บ้านในช่วงฤดูร้อนที่จะมาถึงในอนาคต และที่สำคัญต้องเป็นสีที่ปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย